ก่อนเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศ สิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรละเลยก็คือเงื่อนไขการติดตั้งเครื่องของทางบริษัท เนื่องจากบางบริษัทอาจตั้งราคาเครื่องปรับอากาศไว้ไม่สูง แต่มีค่าติดตั้งแพงมาก ในขณะที่บางครั้งเครื่องปรับอากาศอาจมีราคาสูง แต่ค่าติดตั้งฟรี มีการรับประกันนาน ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อเราควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกันด้วย
กรณีที่ซื้อเครื่องปรับอากาศพร้อมติดตั้งฟรี
ปกติแล้วหลาย ๆ บริษัทมักรวมราคาเครื่องปรับอากาศไปกับค่าติดตั้งแล้ว ถ้ารวมกันแล้วราคาคุ้มค่า ก็ควรเลือกตัวเลือกนี้ ซึ่งการติดตั้งบริษัทจะแถมอุปกรณ์ให้บางชนิดด้วย เช่น
1. ท่อน้ำยาแอร์ โดยทั่วไปจะฟรีเพียง 4 เมตรแรก หากเกินนี้จะต้องชำระเงินเพิ่มตาม BTU หรือขนาดของแอร์ เช่น แอร์ขนาด 9,000-12,000 BTU คิดท่อน้ำยาแอร์ส่วนที่เกินเมตรละ 400 บาท เป็นต้น
2. สายไฟ โดยทั่วไปจะฟรีเพียง 10 เมตรแรก หากเกินอาจคิดราคาเพิ่มตามความยาว ประมาณเมตรละ 30-40 บาท
3. ท่อน้ำทิ้ง โดยทั่วไปจะฟรีเพียง 4-6 เมตรแรก หากเกินอาจคิดราคาเพิ่มตามความยาว ประมาณเมตรละ 20-30 บาท
4. เบรคเกอร์แอร์ จำนวน 1 ชุด ซึ่งควรเป็นเบรคเกอร์เกรด A
ทั้งนี้บริษัทอาจมีอุปกรณ์อื่น ๆ แถมให้อีก หรืออาจต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมก็ได้ เช่น ขาแขวนคอยล์ร้อน ขายางรองคอยล์ร้อน รางครอบท่อ เป็นต้น ถ้าแถม บริษัทก็จะแถมเฉพาะรุ่นตามที่กำหนดเท่านั้น หากต้องการเปลี่ยนหรือเพิ่มสเป็คก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน ส่วนการรับประกันการติดตั้งเครื่องปรับอากาศกรณีนี้มักจะมีระยะเวลานาน 6 เดือน-1 ปี
อีกเรื่องหนึ่งที่บริษัทอาจต้องคิดค่าใช้จ่ายคือค่าเดินทาง หากสถานที่ที่ติดตั้งไกลจากบริษัทมาก บริษัทอาจคิดค่าติดตั้งเพิ่ม เช่น ถ้าอยู่ในระยะห่างจากบริษัท 30-40 กิโลเมตรแรกฟรี เกินจากนั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เป็นต้น
กรณีที่ซื้อเครื่องปรับอากาศ ไม่รวมค่าติดตั้ง
หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าซื้อเครื่องปรับอากาศ แล้วจ้างช่างมาติดตั้งจะคุ้มกว่าไหม ดังนั้นเราต้องพิจารณาราคาค่าติดตั้งพร้อมกับราคาเครื่องปรับอากาศด้วย ถ้าซื้อมาแล้วจ้างช่างติดตั้งราคาถูกกว่า ก็ควรเลือกตัวเลือกนี้ แต่อย่าลืมคำนึงถึงคุณภาพและความสะดวกด้วยนะครับ
ค่าติดตั้งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของแอร์ ขนาดของแอร์ ในที่นี้จะยกตัวอย่างเฉพาะค่าติดตั้งแอร์ติดผนังตามราคามาตรฐาน (ราคานี้รวมอุปกรณ์ที่แถมให้ตามด้านบนด้วย)
– ขนาด 9,000-18,000 BTU ราคา 2,000-3,000 บาท
– ขนาด 18,001-25,000 BTU ราคา 2,500-3,500 บาท
– ขนาด 25,001-32,000 BTU ราคา 3,500-4,000 บาท
– ขนาด 32,001-38,000 BTU ราคา 4,500-5,000 บาท
– ขนาด 38,001-48,000 BTU ราคา 5,500-6,000 บาท
สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายแอร์เพื่อไปติดตั้งใหม่ ก็จะเสียค่าติดตั้งตามขนาดเครื่องปรับอากาศในราคาใกล้เคียงกันนี้ แต่จะมีการรับประกันน้อยกว่า คือระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน
ขั้นตอนการติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ทุกคนควรรู้
ถึงแม้ช่างจะเป็นคนติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แต่เราก็ควรรู้เทคนิคการติดตั้งไว้บ้างเพื่อให้การติดตั้งมีประสิทธิภาพดีที่สุด
1. สำรวจสถานที่ติดตั้งว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ทั้งคอยล์เย็นในบ้านและคอยล์ร้อนนอกบ้าน อย่าลืมว่าต้องติดตั้งให้ถูกทิศ ควรเลี่ยงผนังที่เจอกับแสงแดดโดยตรง
2. วางแผนการเดินท่อน้ำยาแอร์ ท่อน้ำทิ้ง และสายไฟระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน
3. ในกรณีที่เป็นแอร์ติดผนัง ต้องเจาะรูผนัง ฝังพุก และยึดแผ่นเพลตด้วยนอต แผ่นเพลตนี้ทำหน้าที่รับน้ำหนักคอยล์เย็นให้มั่นคง ควรสังเกตรอยร้าวเพื่อให้มั่นใจว่าผนังแข็งแรงดี แนะนำว่าควรติดตั้งให้มีพื้นที่ระหว่างเพดานเพื่อให้สะดวกในการล้างด้วย
4. เจาะรูสำหรับสอดท่อต่าง ๆ ด้วยดอกสว่านที่เหมาะสม ต่อสายไฟและพันท่อแอร์ แล้วเชื่อมสายไฟระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน
5. ติดรางครอบท่อน้ำทิ้งและท่อน้ำยาแอร์ทั้งภายในและภายนอก
6. ติดตั้งคอยล์เย็นเข้ากับแผ่นเพลต เป็นอันเสร็จการติดตั้งส่วนในห้อง
7. เดินท่อน้ำยาแอร์ภายนอก ติดตั้งท่อให้มิดชิด ระวังไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อ หรือมีสัตว์เข้าไปกัดสายไฟได้
8. ถ้าต้องการให้คอยล์ร้อนอยู่เหนือพื้น ต้องติดตั้งขาแขวนคอยล์ร้อน แล้วนำคอยล์ร้อนตั้งบนขาแขวน ถ้าตั้งบนพื้นให้วางบนขายางรองคอยล์ร้อน แนะนำว่าไม่ควรติดตั้งคอยล์ร้อนให้ห่างจากคอยล์เย็นเกินไป ถ้าเดินท่อน้ำยาแอร์เกิน 12 เมตรอาจทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ลดลง จนประสิทธิภาพการทำความเย็นลดลงด้วย และควรติดตั้งให้ห่างจากกำแพงอย่างน้อยครึ่งเมตร โดยไม่มีอะไรขวางด้านหน้าในระยะ 1 เมตร
9. ทดสอบการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ก็เป็นอันเสร็จ
ที่สำคัญต้องติดตั้งสายดินให้ถูกต้องด้วยนะครับ เพื่อไม่ให้ผู้ใช้เกิดอันตราย หลังจากรู้เคล็ดลับเหล่านี้แล้วก็อย่าลืมเอาไปปฏิบัติตาม ถ้าเริ่มติดตั้งดี รับรองว่าแอร์ก็จะมีประสิทธิภาพดีและอยู่กับเราไปนานแสนนานเลยละครับ